วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการอ่านเรื่องที่๗

วันที่  ๑๐  เดือน ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๘
ที่มา : Gomdori co. ประวัติศาสตร์นานาประเทศแสนสนุก
         พิมพ์ครั้งที่ ๒ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ หน้า ๘๖ - ๑๐๒



ประวัติศาสตร์เยอรมนี


ยุคโบราณ
     ประวัติศาสตร์เยอรมนีเริ่มราวศตวรรษที่ ๔ เมื่อชนเผ่าแฟรงก์ก่อตั้งจักรวรรดิแฟรงก์ขึ้นมา ในยุคของพระเจ้าชาร์เลอมาญผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิชาเลอมาญ สามารถขยายอาณาเขตไปถึงฝรั่งเศสในปัจจุบันและพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยอรมนี แต่หลังจากพระองค์สวรรคต อาณาจักรแห่งนี้ก็แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ทิศตะวันออกคือเยอรมนีทิศตะวันตกคือฝรั่งเศส ส่วนตรงกลางเป็นดินแดนที่ฝรังเศสและเยอรมนีแย่งชิงกัน
ยุคกลาง
     หลังจากพระเจ้าออทโทที่ ๑ แห่งจักรวรรดิแฟรงก์ตะวันออกปกครองเหนือดินแดนแถบกลางของยุโรป จึงก่อตั้งเป็นอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่หลังจากเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจระหว่างสถาบันกษัตริย์และสถาบันศาสนา ทำให้อาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แยกออกเป็น ๒ ส่วน สุดท้ายก็ล่มสลายใรศตวรรษที่ ๑๙ เมื่อนโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ
สมัยใหม่
     ปี ค.ศ. ๑๘๖๑ ออทโท ฟอน บิสมาร์ค เสนาบดีของปรัสเซีย รวมเยอรมนีกับปรัสเซียเข้าด้วยกัน โดยใช้นโยบายเลือดและเหล็ก ซึ่งใช้กำลังทหารทำให้เยอรมนีรวมเป็นหนึ่งได้สำเร็จ และสถาปนาจักวรรดิเยอรมนีขึ้น แต่ก็ต้องล่มสลายเมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๑
ปัจจุบัน
     หลังสิ้นสุดสงคราม เยอรมนีเปลี่ยนการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาเป็นระบอบสังคมนิยม แต่หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี ค.ศ. ๑๙๒๙ ฮิตเลอร์และนาซีฉวยโอกาสล้มล้างระบอบสังคมนิยม จากนั้นยึดดินแดนของออสเตรียและเชกโกสโลวาเกียเป็นของตัวเอง และบุกยึดโปแลนด์ จนกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ต่อมาปี ค.ศ. ๑๙๔๕ เยอรมนีก็ยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ ๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น